ญี่ปุ่น เชิงเทียน ประวัติศาสตร์

ประวัติความเป็นมาของเชิงเทียนญี่ปุ่นตลอดทั้งการวิเคราะห์เชิงเทียนคุณจะพบการอ้างอิงเกี่ยวกับสงครามจำนวนมากระหว่าง 1500 ถึง 1600 ดินแดนในวันนี้ของญี่ปุ่นอยู่ในภาวะสงครามต่อเนื่องจักรพรรดิเมียวทุกสมัยมีความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องในการยึดครองประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขาหนึ่งร้อยปี ระยะเวลานี้เรียกว่า Sengoku Jidai หรือ Age of Country at War ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสับสนวุ่นวายอย่างช้าๆในช่วงต้นทศวรรษที่ 1600 มีการพลิกโฉมไปทั่วสามพลพรรค - Nobunaga Oda, Hideyoshi Toyotomi และ Leyasu Tokugawa ความเป็นผู้นำในการเป็นผู้นำของพวกเขาได้กลายเป็น ตำนานพื้นบ้านในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นความสำเร็จของพวกเขาถูกอธิบายว่า Nobunaga ซ้อนข้าว Hideyoshi ขันแป้งและ Tokugawa กินเค้กผลงานทั้งหมดจากบรรดานายพลที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวของญี่ปุ่นเข้าด้วยกันในตระกูลหนึ่งของตระกูลของตระกูลโทคุงะวะปกครองประเทศตั้งแต่ ค. ศ. 1615 ถึงปี ค. ศ. 1867 ที่รู้จักกันในชื่อ "Tokugawa Shogunate Era" ในขณะที่วิธีการเชิงเทียนถูกพัฒนาขึ้นสภาพแวดล้อมทางทหารยังคงอยู่ในญี่ปุ่น เข้าใจได้ง่ายเทคนิคของเชิงเทียนใช้คำศัพท์ทางทหารมากมายสำหรับคำอธิบายการลงทุนมีความสัมพันธ์กับการสู้รบต้องใช้ความสามารถทางยุทธวิธีเดียวกันในการเอาชนะนักลงทุนต้องเตรียมพร้อมสำหรับการชนะการค้าโดยทั่วไปเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบกลยุทธ์จำเป็นต้องมีทางจิตวิทยาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น การแข่งขันที่รุนแรงและยุทธศาสตร์การถอนเงินจำเป็นที่จะต้องเอาชนะสงครามในที่สุด - เพื่อให้บรรลุความสำเร็จทางการเงินในขณะที่เสถียรภาพของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 กลายเป็นโอกาสใหม่ ๆ การลดลงของระบบศักดินาตลาดในประเทศเริ่มขยายตัวสู่ระดับชาติการสิ้นพระชนม์ของตลาดในท้องถิ่นทำให้เกิดการเติบโตของการวิเคราะห์ทางเทคนิคในประเทศญี่ปุ่นซากะได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในสมัยรัชกาลโทโยโตมิครองราชย์สถานที่ใกล้ทะเลทำให้เป็นศูนย์กลางการค้าการท่องเที่ยวทางบก ช้าและอันตรายไม่พูดถึงค่าใช้จ่ายมันกลายเป็น สถานที่สำหรับการพัฒนาระบบคลังสินค้าแห่งชาติการรวบรวมและเบิกจ่ายอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ทางการตลาดการพัฒนาอย่างรวดเร็วสู่เมืองใหญ่ทางการเงินและการพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นโอซากาห้องครัวญี่ปุ่นซึ่งมีคลังสินค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเสถียรภาพด้านราคา โดยการลดความไม่สมดุลของภูมิภาคของอุปทานโอซาก้ากลายเป็นศูนย์กลางผลกำไรของประเทศญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิงเปลี่ยนมาตรฐานทางสังคมตามปกติในเมืองอื่น ๆ ทั้งหมดการแสวงหาผลกำไรถูกเกลียดชังญี่ปุ่นประกอบไปด้วยสี่ชั้นคือทหารทหารชาวไร่และพ่อค้า จนกระทั่งถึงปี ค. ศ. 1700 ที่พ่อค้ากั้นอุปสรรคทางสังคม Mokarimakka ซึ่งหมายความว่าคุณทำกำไรก็ยังคงเป็นคำทักทายกันในโอซาก้าในปัจจุบันภายใต้การครองราชย์ของฮิเดโยชิห์ผู้ชายคนหนึ่งชื่อ Yodoya Keian กลายเป็นพ่อค้าสงครามที่ประสบความสำเร็จ ความสามารถในการขนส่งแจกจ่ายและกำหนดราคาข้าวชื่อเสียงของเขากลายเป็นที่รู้จักกันดีลานบ้านของเขากลายเป็นข้าวป่านแรก hange แต่น่าเสียดายที่เขากลายเป็นคนมั่งคั่งมากโชคร้ายเพราะ Bakufu รัฐบาลทหารนำโดยโชกุนโล่งใจเขาทั้งหมดของเขาโชคลาภนี้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของการเรียกเก็บเงินว่าเขามีชีวิตที่หรูหราเกินกว่าสังคมของเขาอันดับนี้ในระหว่างช่วงเวลาใน กลาง 1600 s เมื่อ Bakufu ได้กลายเป็น leary มากของชั้นพ่อค้าจำนวนร้านค้าพยายามที่จะมุมตลาดข้าวพวกเขาถูกลงโทษโดยมีลูกของพวกเขาดำเนินการพวกเขาถูกเนรเทศและความมั่งคั่งของพวกเขาถูกยึด Dojima Rice Exchange, ตลาดสถาบันที่ พัฒนาขึ้นในลานหน้าบ้านของ Yodoya ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1600 ขณะที่พ่อค้าสามารถจัดอันดับข้าวได้และเจรจากำหนดราคาตลาดหลังจากปี 1710 การค้าข้าวที่เกิดขึ้นจริงได้ขยายไปสู่การออกและเจรจาต่อรองสำหรับใบเสร็จรับเงินคลังสินค้าข้าวของเหล่านี้เรียกว่าเป็นคูปองข้าว และเป็นรูปแบบแรกของฟิวเจอร์สนายหน้าค้าข้าวของโอซาก้าได้กลายเป็นรากฐานสำหรับความมั่งคั่งของเมือง 1,300 ตัวแทนจำหน่ายข้าวที่ครอบครอง Exc hange เนื่องจากข้าวต้มหย่อนสมรรถภาพข้าวกลายเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน Daimyo ที่ต้องการเงินสามารถส่งข้าวที่เกินไปของเขาไปยังโอซาก้าและได้รับใบเสร็จรับเงินจากคลังสินค้าคูปองใบเสร็จนี้สามารถขายได้แล้วเช่นเดียวกับ Daimyo จำนวนมากปัญหากระแสเงินสดอาจเป็นได้ กำจัดด้วยวิธีนี้บางครั้งหลายปีในอนาคตของพืชถูกจดจำนองเพื่อดูแลค่าใช้จ่ายในปัจจุบันด้วยคูปองข้าวกลายเป็นกิจการที่ซื้อขายอย่างแข็งขันการแลกเปลี่ยน Dojima Rice กลายเป็นโลกแห่งการแลกเปลี่ยนล่วงหน้าครั้งแรกคูปองข้าวยังถูกเรียกว่าคูปองข้าวว่างข้าว ที่ไม่ได้อยู่ในการครอบครองทางกายภาพการค้าข้าวแบบฟิวเจอร์สได้รับการก่อตั้งขึ้นในตลาดญี่ปุ่นโดยในปี ค. ศ. 1749 ข้าวสาลีจำนวน 110,000 ก้อนถูกขายได้อย่างอิสระในขณะที่มีการจำหน่ายเบเกอรี่เพียง 30,000 ก้อนทั่วประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าวการซื้อขายเชิงเทียน การวิเคราะห์เชิงเทียนได้รับการพัฒนามากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเนื่องจากการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาข้าวอย่างไรก็ตามในช่วงกลางปี ​​1700 เทพแห่งตลาด Homna เข้ามาในภาพ Munehisa Homna ซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว Homna ได้รับมรดกทางธุรกิจของครอบครัวเนื่องจากความสามารถในการซื้อขายที่ไม่ธรรมดาของเขานี่เป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมญี่ปุ่นรวมถึง หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ลูกชายคนโตควรสืบทอดธุรกิจของครอบครัว บริษัท ค้าขายถูกย้ายจากเมือง Sakata ไปจนถึง Edo Tokyo Homna ในการวิจัยเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายราคาในอดีตและสภาพอากาศสร้างการตีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นในสิ่งที่กลายเป็นที่รู้จักในนาม Candlesticks การวิจัยและการค้นพบของเขาเรียกว่ากฎ Sakata กลายเป็นกรอบการทำงานของปรัชญาการลงทุนของญี่ปุ่นหลังจากที่ครองตลาดข้าวโอซาก้าในที่สุด Homna ก็ได้สะสมทรัพย์สมบัติที่ยิ่งใหญ่กว่าในตลาดหุ้นของโตเกียวด้วยกล่าวว่าเขามีธุรกิจการค้ามากกว่าหนึ่งร้อยรายการ ความสามารถของเขากลายเป็นตำนานและเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์ Candlestick การวิเคราะห์เชิงเทียนของประเทศญี่ปุ่นไม่เคยมีการซื้อขายที่ซ่อนเร้นอยู่ ystem In ถูกนำมาใช้อย่างประสบความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายร้อยปีนับ แต่นั้นเมื่อไม่นานมานี้เป็นเวลาประมาณ 25 ปีที่ผ่านมา บริษัท ได้เข้าสู่ชุมชนการค้าของสหรัฐฯจนแล้วไม่มีอะไรที่น่าสนใจจากวัฒนธรรมตะวันตกในการตรวจสอบเทคนิคการทำเทียน แม้กระทั่งตอนนั้นก็ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรมากการรับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้และใช้เวลานานมากที่อาจจะเป็นจริงจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้หนังสือเล่มแรกที่นำมันเข้าสู่เวทีการค้าสหรัฐจะอธิบายวิธีการทำกล่องไม้ที่ถูก backlit จากนั้นกราฟกราฟอาจดูได้ดีกว่าโชคดีที่การถือกำเนิดของคอมพิวเตอร์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้นำการวิเคราะห์เชิงเทียนมาใช้โดยการก้าวกระโดดและขอบเขตจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ชุมชนการลงทุนรู้เกี่ยวกับ Candlesticks พวกเขาไม่ทราบว่าจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้ที่ตลาดคำรามยุบนักลงทุนทั้งเก่าและใหม่กำลังพยายามที่จะตรวจสอบวิธีการที่ปกป้องพวกเขาไปๆมาๆ m การสูญเสียที่รุนแรงที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2543 จนถึงปัจจุบันการวิเคราะห์และตีความเป็นเวลาหลายร้อยปีสามารถทำได้ง่ายกว่าการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ความมั่งคั่งที่มากได้ถูกรวบรวมไว้ด้วยเทคนิคการจัดทำแผนภูมิอย่างง่ายเช่นเดียวกับข้อดีทั้งหมดที่ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์จัดให้ นักลงทุนวันนี้ความสนใจในการวิเคราะห์สัญญาณเชิงเทียนในประเทศสหรัฐอเมริกาจะต้องมีการให้เครดิตกับสตีฟ Nison กว่าสามปีของการวิจัยที่กว้างขวางผลิตสตีเฟนนิสันของการตีพิมพ์ครั้งแรกเทคนิคการทำแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นตีพิมพ์ในปี 1991 มากของพื้นหลังและข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเชิงเทียน, ที่พบในเว็บไซต์นี้และเว็บไซต์อื่น ๆ อาจเป็นผลของการวิจัยยอดเยี่ยมของ Steve Nison Trading Trading. History Candlesticks. In ศตวรรษที่ 18 เศรษฐีนักธุรกิจญี่ปุ่น Munehisa Homma พัฒนาวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อวิเคราะห์ราคาของข้าว สัญญาวันนี้เทคนิคนี้เรียกว่ากราฟแท่งเทียนและเป็นที่แพร่หลาย ใช้ในการวาดแผนภูมิหุ้น Homma จาก Sakata Japan เริ่มซื้อขายที่ตลาดข้าวในประเทศในปีพศ. 1750 เขาเก็บบันทึกจิตวิทยาด้านการตลาดเพื่อเพิ่มผลกำไรด้วยการตรวจสอบราคาอย่างรอบคอบและไม่ต้องรีบวิ่งเข้าไปในธุรกิจการค้า Homma ถือได้ว่าเป็นคุณปู่ของ เนื่องจากการวิจัยของเขาในการจดจำรูปแบบราคา Homma จึงให้เครดิตกับการเพิ่มขึ้นของเทคนิคการวิจัยซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับการซื้อขายในญี่ปุ่นแผนภูมิแท่งใช้ข้อมูลราคาเดียวกับแผนภูมิแท่งเปิดสูงต่ำปิด แต่แผนภูมิเชิงเทียนเป็น วาดด้วยวิธีที่สามารถมองเห็นได้ง่ายกว่าปกติซึ่งคล้ายเทียนที่มีปลายทั้งสองด้านสูงและต่ำจะอธิบายเป็นเงาและวางแผนเป็นบรรทัดเดียวการเรียนรู้วิธีอ่านแผนภูมิเชิงเทียนเป็นเรื่องง่ายช่วงราคาระหว่างเปิดและปิดเป็นพล็อต เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าในบรรทัดเดียวถ้าปิดอยู่เหนือเปิดร่างกายของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเป็นสีขาวถ้าปิดของวันอยู่ด้านล่างเปิดร่างกายของใหม่ ctangle เป็นสีแดง ใช้สีแดงเพื่อแสดงถึงเลือดเช่นเดียวกับการอ้างอิงของ Homma ในการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่คล้ายคลึงกับสงครามที่เกิดขึ้นในสมัยโบราณของประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ในโลกตะวันตกเราอ้างถึงสงครามระหว่างวัวและหมีเมื่อหมีชนะสงครามเป็นครั้งคราว เราได้ยินนักวิเคราะห์พูดคุยเกี่ยวกับเลือดบนถนนการวิเคราะห์เชิงเทียนแบบญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือที่มีแสงแวววาวเป็นจิตวิทยาของกิจกรรมการค้าระยะสั้นเครื่องมือนี้สามารถมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ Steve Nison พ่อของเทียนไขและ ผู้เขียนหนังสือแผนภูมิเชิงเทียนที่เป็นที่นิยมเช่นกลยุทธ์การสร้างผลกำไรด้วยแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นและกราฟแท่งเทียนเป็นต้นเทคนิคใหม่ในการทำแผนภูมิของญี่ปุ่นเปิดเผยโดยนำเสนอแผนภูมิเชิงเทียนสู่โลกตะวันตกจากประเทศญี่ปุ่นในปีพ. ศ. 2532 เมื่อเขาตีพิมพ์บทความเรื่องแรกของเขาเกี่ยวกับการวิเคราะห์เชิงเทียนในนิตยสารฟิวเจอร์ส . LLC ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทางใด ๆ กับสตีฟ Nison ผู้เขียนหลายคนของหนังสือแผนภูมิเชิงเทียนมีส่วนอย่างมากให้กับฐานความรู้และความนิยมของเชิงเทียนเป็นวัสดุอ้างอิงเว็บไซต์นี้ใช้บางส่วนของแนวคิดพื้นฐานของการทำแผนภูมิแท่งเทียนที่พบในสิ่งพิมพ์ที่เคารพนับถือมาก การลงทุนในหุ้นอาจหมายความว่านักลงทุนอาจสูญเสียจำนวนเงินที่มากกว่าการลงทุนเดิม ๆ ใครก็ตามที่ประสงค์จะลงทุนหรือเก็งกำไรในตลาดหุ้น ควรหาคำแนะนำทางการเงินหรือวิชาชีพของตนเอง LLC ไม่ใช่บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนและไม่แนะนำให้ซื้อหรือขายหุ้นไม่มีที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาตทำงานที่ LLC ผลการดำเนินงานที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมีข้อ จำกัด บางประการบางประการที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ไม่ได้เป็นตัวแทน จะทำว่าบัญชีใดจะหรือมีแนวโน้มที่จะบรรลุผลกำไรหรือ LOS SES ที่คล้ายคลึงกับที่ปรากฏอยู่ในความเป็นจริงความแตกต่างระหว่างผลการดำเนินงานกับผลการดำเนินงานตามสมมติฐานและผลที่แท้จริงที่ได้รับจากระบบการค้าที่มีข้อ จำกัด ข้อ จำกัด ของผลการปฏิบัติงานตามหลักสรีรวิทยาคือว่าพวกเขาได้รับการจัดทำขึ้นโดยทั่วไปเพื่อประโยชน์ในการเพิ่มน้ำหนัก, การค้าทางเลือกไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงด้านการเงินและไม่มีบันทึกการค้าทางเทคนิคที่สามารถสรุปผลกระทบทั้งหมดของความเสี่ยงทางการเงินในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมตัวอย่างเช่นความสามารถในการรับมือกับความสูญเสียหรือเพื่อเข้าสู่โปรแกรมการค้าโดยเฉพาะที่เกิดจากการสูญเสียการค้าเป็นประเด็นสำคัญ นอกจากนี้ยังสามารถมีผลต่อผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงได้อีกด้วยปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทั่วไปหรือการดำเนินการของโปรแกรมการเทรดที่เฉพาะเจาะจงซึ่งไม่สามารถใช้ในการจัดทำผลการดำเนินงานที่มีผลต่อการปฏิบัติงานและทุกอย่างที่อาจเป็นผลโดยตรงต่อผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง ความเสี่ยงของการสูญเสียในกลุ่มการค้าแคลิฟอร์เนีย การถือครองหลักทรัพย์ของ N เป็นสิ่งสำคัญการเก็งกำไรและการสูญเสียความเสี่ยงที่มีอยู่ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่จำเป็นต้องเป็นตัวบ่งชี้ถึงผลการดำเนินงานในอนาคตลิขสิทธิ์ฉบับปี 2544-2560 สงวนลิขสิทธิ์ LLC ประวัติความเป็นมาของเชิงเทียนญี่ปุ่นประวัติความเป็นมาของแผนภูมิเชิงเทียนของประเทศญี่ปุ่น วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบโบราณของประเทศญี่ปุ่นใช้ในการซื้อขายข้าวในปี ค. ศ. 1600 ใช้ในการทำสัญญาซื้อขายข้าวจากปีพ. ศ. 1710 เป็นต้นไปเทียนเชิงเทียนเรียกว่า Candlesticks ญี่ปุ่นหรือเทียนญี่ปุ่นประวัติความเป็นมาของการทำแผนภูมิเชิงเทียนย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 16 พ่อค้าชาวญี่ปุ่นในทศวรรษ 1600 เพื่อค้าข้าวสัญญาจนถึงปี 1710 มีการซื้อขายข้าวทางกายภาพเพียงอย่างเดียวหลังจากที่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าได้ออกคูปองซึ่งเป็นเอกสารสัญญาส่งมอบข้าวในอนาคตนี่คือจุดเริ่มต้นของฟิวเจอร์ส trading. How เป็นครั้งแรก Futures Trade เริ่มต้นทั่วไปโทคุงาวะ Ieyasu. Painting ของ Edo City Edited เมือง Edo. Merchants Edo เมืองเก่าญี่ปุ่นถูกปกครองโดยกลุ่ม Daimyo feudal lords ในศตวรรษที่ 15 เป็นผู้ปกครองที่มีขนาดเล็กพวกเขามีสงครามภายในอย่างต่อเนื่องในที่สุด General Tokugawa Ieyasu ผู้ปกครองจาก Edo ได้รับชัยชนะในการรบที่มีชื่อเสียงที่ Sekigahara ในปี ค. ศ. 1600 ชัยชนะนี้ ให้กำเนิดจักรวรรดิญี่ปุ่นแบบครบวงจรเพื่อให้อำนาจนายพลโทคุงาวะต้องรักษาเจ้านายศักดินาทั้งหมดไว้ภายใต้การควบคุมของพระองค์พระองค์ทรงทำให้เจ้านายทั้งปวงอยู่ในเมืองอีดีโอกับครอบครัวเมื่อพวกเขาต้องไปจังหวัดต่างๆ พวกเขาต้องออกจากครอบครัวของพวกเขาที่ Edo นี้หยุดพวกเขาจากการสมคบคิดเพราะครอบครัวของพวกเขาถูกเก็บไว้ทางอ้อมเป็นตัวประกันแหล่งรายได้หลักของขุนนางศักดินาโดยการเก็บภาษีเกษตรกรได้จ่ายภาษีในรูปแบบของข้าวที่พวกเขาเติบโตใน เนื่องจากข้าวนี้ไม่สามารถขนย้ายจากจังหวัดเมียวไปจนถึงอีดีโอพวกเขาจึงตั้งคลังสินค้าในเมืองโอซาก้าเพื่อเก็บข้าวไว้ที่เอโดะโดเมียวอยู่ด้วยกัน วิถีชีวิตที่มีราคาแพงในการแข่งขันกับแต่ละอื่น ๆ เพื่อรักษาวิถีชีวิตของพวกเขาพวกเขาไม่เพียง แต่ขายข้าวที่พวกเขาเก็บไว้ในคลังสินค้าที่โอซาก้า แต่ยังขายข้าวจากการเก็บเกี่ยวในอนาคตคลังสินค้าจะออกใบเสร็จรับเงินหรือคูปองสำหรับข้าวในอนาคตนี้ เรียกว่าสัญญาข้าวว่างเปล่าเนื่องจากข้าวไม่มีอยู่ในครอบครองทางกายภาพของคนใดและขายในตลาดรองนี่คือจุดเริ่มต้นของตลาดฟิวเจอร์สแห่งแรกของโลกแห่งหนึ่งการซื้อขายข้าวล่วงหน้าจำเป็นต้องมีการเก็งกำไรมากและเป็นเพราะการเก็งกำไรนี้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคของญี่ปุ่นเกิดขึ้นว่าเป็นใคร Homma Munehisa ในช่วงนี้ Homma Munehisa 1724-1803 พ่อค้าข้าวจาก Sakata ประเทศญี่ปุ่นได้จัดภูมิปัญญาโบราณนี้ได้พัฒนาและใช้แผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จมากเขาซื้อขายข้าวในตลาด Ojima Rice ในโอซาก้าในช่วง Tokugawa Shogunate หรือที่เรียกว่า Tokugawa bakufu ซึ่งเป็นระบอบศักดินาของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งโดย Tokugawa Leyasu และปกครองโดย shoguns of ครอบครัว Tokugawa ระยะเวลานี้เรียกว่ายุค Edo และได้รับชื่อนี้จากเมืองหลวง Edo ซึ่งตอนนี้เรียกว่า Tokyo เวลานี้เรียกว่ายุค Tokugawa หรือสมัยก่อน Kinsei Homma Munehisa มักเรียกว่าเป็น พ่อของญี่ปุ่นเชิงเทียนแผนภูมิความสำเร็จการค้าของเขาโด่งดังทำให้เขากลายเป็นกิตติมศักดิ์ซามูไรวิธีการของพระองค์เป็นตัวอย่างที่เก่าแก่ที่สุดของการวิเคราะห์ทางเทคนิค documented. Stories อ้างว่า Homma สร้างเครือข่ายส่วนบุคคลของผู้ชายเกี่ยวกับทุก 6 km ระหว่าง Sakata และโอซาก้าระยะทางบาง 600 กม. เพื่อสื่อสารราคาตลาดเขาค้นพบว่าถึงแม้จะมีความเชื่อมโยงระหว่างอุปสงค์และอุปทานของตลาด แต่ตลาดต่างก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากอารมณ์ความรู้สึกของผู้ค้าด้วยเหตุนี้จึงมีช่วงเวลาที่ตลาดมองว่าการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันไป จากข้อเท็จจริงเขาได้ให้เหตุผลว่าการศึกษาอารมณ์ความรู้สึกของตลาดอาจช่วยในการคาดการณ์ราคาได้กล่าวอีกนัยหนึ่งเขาเข้าใจว่ามีความแตกต่างระหว่างคุณค่า e และราคาข้าวความแตกต่างระหว่างราคาและมูลค่ามีความถูกต้องในวันนี้ด้วยหุ้นพันธบัตรและสกุลเงินเช่นเดียวกับข้าวศตวรรษที่ผ่านมาในปี ค. ศ. 1755 เขาเขียน San-en Kinsen Hiroku น้ำพุทอง - สาม Monkey Record of Money ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกเกี่ยวกับจิตวิทยาด้านการตลาดในเรื่องนี้เขากล่าวว่าด้านจิตวิทยาของตลาดมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการค้าขายและอารมณ์ของผู้ค้าก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อราคาข้าวเขาตั้งข้อสังเกตว่าสามารถใช้ตำแหน่งนี้ได้ ต่อต้านการตลาดในนี้ผู้เขียนระบุว่าหลังจาก 60 ปีของวันทำงานและคืนที่ฉันได้ค่อยๆได้รับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของการเคลื่อนไหวของตลาดข้าวเมื่อทุกหยาบมีสาเหตุสำหรับราคาที่เพิ่มขึ้นเมื่อทุกคนรั้นมี สาเหตุราคาลดลงเขาอธิบายถึงการหมุนของยางตลาดรั้นและหยินตลาดหยาบคายและอ้างว่าภายในแต่ละประเภทของตลาดเป็นตัวอย่างของประเภทอื่น ๆ นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าแนวโน้มแนวโน้มและเคาน์เตอร์ ดูเหมือนว่าเขาได้ใช้สภาพอากาศและปริมาณการตลาดตลอดจนราคาในการรับตำแหน่งการซื้อขายเขาถือว่าเป็นผู้ประกอบการค้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งสร้างรายได้กว่า 100 พันล้านในราคาปัจจุบันซึ่งเป็นปีที่มีรายได้มากกว่า 10 พันล้านเหรียญต่อปี , เขาได้ประพันธ์หนังสือสองเล่มอื่น ๆ - ความเห็นเต็มรูปแบบเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ Sakata และนิทานในชีวิตที่ฝังอยู่ในตลาดแผนภูมิ candlesticks ญี่ปุ่นกลายเป็นที่นิยมมากเนื่องจากระดับของความง่ายในการอ่านและทำความเข้าใจกับกราฟผู้ค้าข้าวญี่ปุ่นยัง พบว่าแผนภูมิผลลัพธ์จะเป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้อย่างเป็นธรรมในการคาดการณ์ความต้องการในอนาคต Steve Nison เข้าใจถึงพลังอันน่าตกใจของแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นและเป็นที่นิยมแพร่หลายในวงการเวสเทิร์นซีกโลกเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในเรื่องบทความที่เขียนขึ้นโดยสตีฟนีสัน ที่อธิบายการจัดทำแผนภูมิแท่งเทียนปรากฏในเดือนธันวาคม, 1989 และเมษายน, 1990 ปัญหาของนิตยสารฟิวเจอร์สเขาได้เขียนหนังสือที่ชัดเจนเกี่ยวกับ s ubject โดยใช้เทคนิคการทำแผนภูมิญี่ปุ่น Candlestick Controversy นอกเหนือจาก Candlesticks Nison กล่าวว่าในเอกสารที่แปลแปลว่าแผนภูมิเทียนมักเรียกว่าแผนภูมิ Sakata อ้างอิงถึงเมืองท่าเรือ Sakata ซึ่ง Homma อาศัยอยู่อย่างไรก็ตามจากผลการวิจัยของฉัน ไม่น่าเป็นไปได้ว่า Homma ใช้แผนภูมิเทียนตามที่จะเห็นในภายหลังเมื่อฉันพูดถึงวิวัฒนาการของแผนภูมิเทียนก็มีแนวโน้มว่าแผนภูมิเทียนได้รับการพัฒนาในช่วงต้นของระยะเวลาเมจิในประเทศญี่ปุ่นในปลาย 1800s วิวัฒนาการของ กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นด้วยการวิจัยของ Steve Nison อธิบายถึงวิวัฒนาการของแผนภูมิเทียน 1 แผนภูมิหยุดเรียกอีกแบบหนึ่งเหล่านี้เรียกว่าแผนภูมิจุดแผนภูมิเส้นหรือแผนภูมิดาวนี่เป็นแผนภูมิชนิดแรกสุดและถูกวาดโดยการเข้าร่วมเฉพาะราคาปิดชื่อ มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าแต่ละจุดหรือดาวเป็นที่ที่ราคาหยุดลงเมื่อสิ้นสุดเซสชัน 2 แผนภูมิขั้วโลกแผนภูมินี้เพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมโดยการแสดงช่วงระหว่างช่วงสูงและ l ow ของเซสชั่นบรรทัดเหล่านี้แสดงไม่เพียง แต่ทิศทางของการย้าย แต่ขอบเขตของการย้ายสำหรับแต่ละเซสชันเนื่องจากการแสดงแต่ละช่วงจะปรากฏเป็นเส้นแนวตั้งที่เรียกว่าเป็นแผนภูมิขั้วโลก 3 แผนภูมิแท่งเหล่านี้เป็นแผนภูมิที่ใช้โดยทั่วไปมากที่สุดใน โลกตะวันตกนี่คือการรวมกันของแผนภูมิหยุดและแผนภูมิขั้วพวกเขาแสดงไม่เพียง แต่ช่วงของการซื้อขายโดยภาพวาดเสียงสูงและต่ำ แต่ยังแสดงจุดเปิดและปิดโดยใช้เปิดสูงต่ำและปิดราคาบางแผนภูมิอาจ พวกเขาใช้ราคาสูงราคาต่ำและราคาใกล้ ๆ เท่านั้น 4 แผนภูมิ Anchor เหล่านี้ควรมีต้นกำเนิดมาจาก Kyoho Era ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2516 สถานที่นัดพบตามปกติสำหรับผู้ค้าข้าวคือเมืองท่าเรือดังนั้นพวกเขาจึงอาจต้องใช้คิวจากจุดยึดเพื่อสร้าง แผนภูมินี้ด้านบนและด้านล่างของเส้นแนวตั้งของ anchor เป็นเส้นสูงและต่ำของเซสชันที่เส้นแนวนอนของเส้นสมอมีการเปิดลูกศรของเส้นสมอมีการปิดถ้าการปิดสูงกว่าการเปิด ancho r จุดขึ้นและถ้าปิดจะต่ำกว่าสมอจุดลง 5 แผนภูมิเทียนการปรับปรุงต่อไปจากแผนภูมิทอดสมอเป็นญี่ปุ่น Candlestick Chart เทียนอาจเริ่มต้นในช่วงต้นของระยะเวลาเมจิจาก 1868 สายเทียนถูกปรับแต่งของ กราฟสมอการใช้สีดำและสีขาวที่แท้จริงทำให้การวิเคราะห์อุปทานและความต้องการของอุปทานที่มองเห็นได้ง่ายกว่าการยึดกราฟแท่งกับการมาถึงของแท่งเทียนการวิเคราะห์ทางเทคนิคของญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้คนเริ่มคิดถึงสัญญาณและ กลยุทธ์การซื้อขายได้รับการพัฒนารูปแบบและการคาดการณ์ของตลาดกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากการพยายามคาดการณ์การตลาดถือเป็นเรื่องสำคัญมากในช่วงทศวรรษที่ 1870 เมื่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดกว้างสตีเวนนีสันเห็นว่าแผนภูมิแท่งเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของแผนภูมิแท่งเทียนญี่ปุ่นที่มีการพัฒนาและมีประสิทธิผลมากขึ้น ในสาระสำคัญซึ่งหมายความว่าเนื่องจากส่วนใหญ่ของตะวันตกยังใช้แผนภูมิแท่งอยู่ แต่ก็ใช้รูปแบบการพัฒนาที่น้อยลง charting กว่าญี่ปุ่นมีกราฟแท่งเทียนเนื่องจาก Candlesticks แสดงความสัมพันธ์ระหว่างราคาเปิดสูงต่ำและราคาปิดพวกเขาไม่สามารถแสดงในหลักทรัพย์ที่มีราคาปิดได้และไม่ได้ถูกแสดงไว้ในหลักทรัพย์ที่ไม่มีการเปิด ราคาคลิกที่นี่เพื่อซื้อหนังสือเกี่ยวกับ Candlesticks ในญี่ปุ่น